วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

องค์การ NASA ออกโรงชี้แจง 2012 วันโลกาวินาศหลักฐานข้อเท็จ ข้อจริงเป็นอย่างไร





วันโลกแตก .. วันโลกาวินาศ คำนี้ พวกเราคงได้ยินถี่ขึ้น
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราจะอ่านพบข่าวภัยพิบัตินานัปการ
ตั้งแต่น้ำท่วม ดินถล่ม พายุ อากาศร้อนจัด หนาวจัด กระทั่งมาถึง แผ่นดินไหว
หลายคนรู้สึก ว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตเกิดบ่อยครั้งขึ้น
ตั้งแต่แผ่นดินไหวในซื่อชวนของจีนซึ่งมีผู้เสียชีวิต 90,000 คน ต่อมา แผ่นดินไหวในไฮติซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน และ ล่าสุด แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งตามมาด้วยสึนามิ ทำให้มีผู้เสียชีวิต และ สูญหายไม่น้อยกว่า 20,000 คน
(โดยข้อเท็จจริง จำนวนครั้ง และขนาดของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญจากข้อมูลในอดีต)
แถมตามมาด้วย อากาศที่แปรปรวนอย่างหนักในประเทศไทย
ปลายมีนาคมจะเข้าเมษายนแล้ว เมืองไทยอากาศยังหนาวสั่น
ขณะที่ทางภาคใต้ของไทย กลับมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จนน้ำท่วมอย่างที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน
หรือว่า .. หรือว่า นี่จะเป็นการเริ่มต้นไปสู่ ..วันโลกาวินาศ
หลายคน คงเริ่มมีความสงสัย ความกังวลอยู่ในใจ
ว่า ภาพยนต์เรื่อง 2012 นั้น ดูท่าจะกลายเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว


ข่าวเกี่ยวกับ วันสิ้นโลกในปี 2012 มีการกล่าวขวัญกันถึงในเวบไซต์ต่างๆมากมาย
แม้ในฟอร์เวิร์ดเมล์ ก็จะมีการส่งเรื่องราว กล่าวเตือนถึง “วันมรณะ” นี้ไปทั่ว
ผมเอง มีประสบการณ์เกี่ยวกับข่าวลือทำนองนี้มามากมาย
ดังนั้น จึงเลือกที่จะตรวจสอบ ที่ไปที่มา เพื่อหาความเห็น หรือข่าวสารอื่นๆ ให้ครบถ้วน รอบด้าน
ผมพบว่า ในเวบไซต์ต่างๆ มีการนำเรื่องราว 2012 วันสิ้นโลก ไปกล่าววิพากษ์วิจารณ์ไว้มากมายว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา หาข้อเท็จจริงไม่ได้
แม้ในเวบไซต์ของ NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ) อันเป็นหน่วยงานรัฐ ของสหรัฐฯ ก็เปิดพื้นที่ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนอเมริกา และ ทั่วโลก ทราบว่า ข่าวลือดังกล่าว ปราศจาก

พื้นฐานความจริงใดๆทั้งสิ้น
วันนี้ ผมขอถอดความบางส่วนจากเวบของนาซาดังกล่าว มาเผยแพร่ เพื่อช่วยกันบรรเทาความแตกตื่นต่อ 2012 วันสิ้นโลกนี้ลงไปได้บ้าง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐
คำถาม มีภัยคุกคามใดๆต่อโลกมนุษย์ในปี 2012 หรือไม่ ? เวบไซต์ในอินเตอร์เนตจำนวนมากระบุว่า โลกจะถึงการอวสานต์ ในเดือนธันวาคม 2012

คำตอบ ไม่มีอะไรร้ายแรงจะเกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ในปี 2012 ดาวพระเคราะห์ซึ่งพวกเราอาศัยอยู่กันนี้ อยู่มาด้วยดีเป็นเวลากว่าสี่พันล้านปี และนักวิทยาศาสตร์ซึ่งทรงความน่าเขื่อถือทั้งหลายในโลก ไม่พบเหตุของความคุกคามใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับปี 2012 นี้แต่อย่างใด

คำถาม อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของคำพยากรณ์ว่าโลกจะสิ้นสุดในสิ้นปีของปี 2012

คำตอบ เรื่องมันเริ่มต้นด้วยการกล่าวอ้างว่า ดาวนิบิรุ (Nibiru)  ซึ่งเป็นดวงดาวที่กล่าวกันว่า 

ชาวสุเรเมียน(Suremians) เป็นผู้ค้นพบกำลังพุ่งเข้าหาโลก ในเบื้องต้น คำพยากรณ์กล่าวว่า 
ความหายนะจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2003 แต่เนื่องจากไม่เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น วันโลกาวินาศ
จึงถูกเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคม 2012  หลังจากนั้นจึงมีการนำนิทานทั้งสองเรื่องมาเชื่อมโยงเข้ากับจุดจบของวงวัฎจักรในปฎิทินโบราณของมายัน และนำมาสู่คำพยากรณ์ว่าวันโลกาวินาศคือ วันที่ 21 ธันวาคม 2012

คำถาม จริงหรือที่ว่าปฎิทินของมายันสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2012

คำตอบ ปฏิทินของพวกเราที่แปะอยู่ในห้องครัว ไม่ได้สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม ปฏิทินของมายันก็ไม่ได้จบสิ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เช่นเดียวกัน วันที่ 21 ธันวาคมดังกล่าว เป็นวันสุดท้ายของรอบวงปฏิทินของมายัน ดังนั้น เมื่อปฏิทินของพวกเรา เริ่มใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม ปฏิทินมายัน ก็เริ่มต้นนับใหม่ ภายหลัง 21 ธันวาคม           

คำถาม มีดาวที่ชื่อว่านิบิรุ หรือ ดาว X หรืออีริส (Eris)ที่กำลังพุ่งเข้าหาโลก และ คุกคามที่จะทำลายดาวเคราะห์ซึ่งพวกเราอาศัยอยู่นี้หรือไม่

คำตอบ นิบิรุ และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่พุ่งเข้าหาโลก เป็นเรื่องซึ่งกุขึ้นมาในอินเตอร์เนต ไม่มีพื้นฐานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างเหล่านี้เลย หากคำอ้างที่ว่านิบิรุ หรือ ดาว X กำลังมุ่งหน้าที่จะพุ่งชนโลกในปี 2012 เป็นจริง นักดาราศาสตร์คงจะทำการติดตามดาวดวงนี้มาอย่างน้อยเป็นสิบปีมาแล้ว และ หากเรื่องนี้เป็นจริง วันนี้ เราย่อมสามารถมองเห็นดาวดังกล่าวด้วยตาเปล่าในวันนี้แล้ว ความเป็นจริงก็คือ มันไม่มีดาวดังกล่าว สำหรับ Eris นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ดาวดวงนี้เป็นดาวดวงเล็กขนาดเท่าดาวพลูโต และดาวดวงนี้จะอยู่ในวงโคจรรอบนอกของระบบสุริยะ ระยะใกล้ที่สุดซึ่งดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้ ก็คือประมาณ สี่พันล้านไมล์

คำถาม เป็นความจริงหรือไม่ ที่ว่ามีอันตรายที่โลกจะถูกพุ่งชนจากอุกาบาตในปี 2012

คำตอบ โลกมีโอกาสถูกพุ่งชนจากดาวหางหรืออุกาบาตตลอดเวลา แต่การพุ่งชนซึ่งมีความรุนแรงมีน้อยมาก การพุ่งชนที่มีผลกระทบใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 65 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป ปัจจุบันนี้ นาซาได้ดำเนินการสำรวจที่เรียกว่า การสำรวจเพื่อปกป้องอวกาศ เพื่อมองหาอุกาบาตขนาดใหญ่ซึ่งอยุ่ใกล้โลก เป็นเวลานานก่อนที่มันจะพุ่งถึงโลก ผลการศึกษา นาซาสรุปว่ายังไม่พบอุกาบาตขนาดใหญ่เช่นที่เคยทำลายไดโนเสาร์มาก่อน งานการสำรวจนี้ ทำกันอย่างเปิดเผย และมีการนำขึ้นเวบทุกวันที่ NEO Program Office website ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปดูได้

คำถาม นักวิทยาศาสตร์นาซา รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการกล่าวอ้างถึง วันโลกาวินาศซึ่งจะมาถึง

คำตอบ คำกล่าวอ้างเกี่ยวกับภัยพิบัติหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันในปี 2012 นั้น มันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อย่างไร หลักฐานบ่งชี้อยู่ที่ไหน เราไม่พบเห็นอะไรเหล่านั้นเลย
สำหรับการนำเสนอต่างๆ ทั้งในรูปหนังสือ ภาพยนต์ สารคดี หรือในอินเตอร์เนต ต่างๆนั้น ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้ ไม่มีหลักฐานที่พอเชื่อถือใดเลย สำหรับการยืนยันว่าจะเกิดเหตุการณืผิดปรกติขึ้นในเดือนธันวาคม 2012

คำถาม มีอันตรายใดๆที่จะเกิดจากพายุสุริยะขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีในปี 2012

คำตอบ การปรับเปลี่ยนของพายุสุริยะเกิดเป็นวัฎจักร ซึ่งจะขึ้นถึงจุดสุดยอดทุก 11 ปี เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดนี้ การปะทุในดวงอาทิตย์อาจทำให้ระบบสื่อสารดาวเทียมได้รับผลกระทบ แม้ในปัจจุบันวิศวกรกำลังเรียนรู้ที่จะพัฒนาระบบอิเล็กตรอนิกส์ที่สามารถทำงานได้ภายใต้พายุสุริยะใดๆก็ได้ แต่ไม่มีความเสี่ยงพิเศษใดๆในปี 2012 จุดสุดยอดของการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นประมาณปี 2012-2014 และก็เป็นที่คาดว่าจะเป็นวงวัฎจักรสุริยะตามปรกติ ไม่มีความแตกต่างใดจากวัฎจักรซึ่งเคยเกิดมาในประวัติศาสตร์

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น